Day 1 กรุงเทพมุ่งสู่หาดใหญ่
04.07.2558-14.20
เริ่มออกเดินทางจากบ้านมุ่งสู่สนามบิน โดยนัดหมายเพื่อน่วมทางที่ดอยเมืองเวลา 15.30 น.
เริ่มออกเดินทางจากบ้านมุ่งสู่สนามบิน โดยนัดหมายเพื่อน่วมทางที่ดอยเมืองเวลา 15.30 น.
เกท 46 บินไปหาดใหญ่ ด้วยสายการบิน ไทยไลออน แอร์ สิ่งที่ไม่ประทับใจคือไปกับทัวร์คนจีนที่ค่อนข้างไม่เป็นระเบียบและแซงต่อหน้าผมเลย
เราเดินทางมาถึงหาดใหญ่ 18.15น. พี่คนนึงที่เคยมาบอกให้เดินไปข้างหน้าสนามบินจะมีรถสองแถวเพื่อนั่งเข้าไปยังตลาดกิมหยง ราคา30บาทต่อคน ถ้าเป็นแท็กซี่ราคาเหมา 200 บาท
เดินเท้ามาทางตลาดกิมหยงตรงแยกโรงแรมอินทรามีร้านอาหารอยู่อร่อยน่าดู
ถึงแล้วตลาดกิมหยง พวกเราเข้าพักที่โรงแรมอินทราในราคาห้องพัก 550 บาท ไม่อยากจะรีวิวเอาเป็นว่าไปหาที่อื่นเพิ่มเงินหน่อยสบายกว่าเยอะครับ
จากโรงแรมเราก็ได้เดินออกมาแล้วไปกินต่อ มีหลากหลายเมนูให้เลือกแถวๆโรงแรมเซ็นทรัล จากนั้นก็แยกย้ายเช้าที่พัก
DAY2 หาดใหญ่ - ตรัง - ภูเก็ต
ตื่นเช้ามา ประมาณ 6 โมงกว่าๆเราได้เดินกลับมาแล้วทางร้านอาหารที่ตั้งอยู่ข้างๆ ซึ่งในร้านจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยง ต่างชาติธรรมเนียมในการเข้าใช้บริการต่างกัน
บะกุ๊ดเต๋ ร้อนๆ เซิฟพร้อมข้าว เป็นอาหารเช้าที่เข้ากันได้ดี
จากนั้นเราได้เดินไปยังสถานีรถไฟเพื่อหารถไฟไปต่อยังตรัง
เดินเท้ามาไม่ไกลก็ถึงสถานีรถไฟหาดใหญ่ จากการสอบภามไม่มีรถขบวนไหนภาพตรังเลย และได้รับคำแนนำให้ไป บขส
จากนั้นเราได้เดินออกมา แนะนำให้เดินออกไปไกลเรียกรถที่วิ่งอยู่ข้างนอก จะได้ราคาคนละ 30บาท แต่ถ้าเราเรียกหน้าสถานีรถไฟที่จอดรออยู่เขาจะเหมา 100 บาท ระหว่างเจรจาแล้วจะเดินออกไปมีวินมอเตอร์ไซวิ่งเข้ามาตัดหน้าคนละ 40 บาท แต่ก็เลือกเดินออกไปแล้วได้ 30 บาทตามที่ว่ามา
เราเดินทางมาถึงสถานีขนส่งประมาณ 7.45 น.เลยได้รถรอบ 8.00 น.
เฆมฝนมาแล้ว โดนแน่ๆ
พอลงจากรถเลวาปนะมาณ 10.30 น. เราเดินเท้าประมาณ 2.5 km ไปยังสถานีรถไฟตรัง แวะหาของกิน 5555
ระหว่างทางจะมีบ้านโบราณที่ยังคงเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมไว้ให้เราได้ชมกันตลอดทาง
ระหว่างทางได้เห็นจิตกรรมฝาผนังของกลุ่ม สโมสรโรตารีตรัง
จากสถานีรถไฟเดินตรงมาอีกประมาณ 100 m จะเจอร้านอาหารหัวมุม ร้านนี้มีเมนูให้เลือกหลากหลายมาก อร่อยรับรอง
จากสถานีรถไฟเดินตรงมาอีกประมาณ 100 m จะเจอร้านอาหารหัวมุม ร้านนี้มีเมนูให้เลือกหลากหลายมาก อร่อยรับรอง
แผนการเดินทางเราถูกเปลี่ยนเดินทางไปภูเก็ตทันที เมื่อพายุฝนเข้ามาระหว่างนั่งกินข้าว เพราะอยู่ไปก็ไปไหนไม่ได้งั้นเดินทางต่อเลยดีกว่า
หนุ่มใหญ่อารมณ์ดีร้านหมูสะเต๊ะ นี้ ได้แนะนำให้เราได้ขึ้นรถหน้าสถานีรถไฟเพื่อไปต่อรถที่สถานีขนส่งตรัง ในราคา 12 บาท
12 บาท แน่นอน
เมื่อเรามาถึงสาถานีขนส่งประมาณ 12.45 ก็เดินหารถทัวร์เลยได้รอ บ่ายโมง คนละ 252 บาท ไปส่งขนส่งภูเก็ต
17.30 น. เราเดินทางมาถึงสะพานสารสิน ที่ๆต้องพาคนรักมาเดินเที่ยว
ผ่านด่านตรวจก็เข้าสู่ภูเก็ตเต็มตัว
ถึงแล้วสถานีขนส่งภูเก็ต หกโมงกว่าๆ ใช้เวลาเดินทาง5ชั่วโมงนิดๆ
ได้ทำการนัดหมายน้องรหัสจากมหาลัยไว้ จะเป็นคนนำทัวร์และฝากที่นอนไว้ที่บ้านน้องกาญ
จุดกึ่งกลางของภูเก็ต ฮ่ายเหล็งอ๋อง พญามังกรทะเล ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราชินี ถนนถลาง จังหวัดภูเก็ต จะพบประติมากรรมมังกรสีทองขนาดใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่าห์ สะดุดตาผู้ผ่านไปมา คนที่ภูเก็ตมักเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า ลานมังกรทอง
สีสันยามค่ำคืนแถวถนนคนเดิน เปิดเฉพาะวันอาทิตย์
คุณลุงขายไอศครีมโบราณ
รถโบราณเปิดท้ายแนวๆก็มีให้เห็น
ระหว่างทางก็จะมีการเปิดลานแสดงความสามารถของน้องๆให้ชมกัน
ของขายมีหลากหลายให้เลือกซื้อกันเลยที่เดียว
แวะพักลองชิมหมึกย่างสดๆกัน ทั้งสดทั้งอร่อย
เดินเขามาสักพักขวามมือจะมีศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยว มีแผนที่แจกฟรีด้วย
ร้านนมโต ทำจากนมสดๆ พร้อมท๊อปปิ้งเพียบ
จากถนนคนเดินเราก็มุ่งสู่หาดป่าตอง
บรรยากาศเรียบหาดคึกคักไปด้วยชาวต่างชาติที่เดินออกมาท่องเที่ยวกันอย่างหนาแน่น
ระหว่างการเดินชมร้านค้าต่างๆ ก็ได้มีการเปิดการแสดงบนถนน โดยการเล่นมายากลที่ทำให้คนมุงดูกันเป็นจำนวนมาก
หลังจากกลับจากหาดป่าตองเราได้เข้าพักที่บ้านน้องกาน เป็นอันจบทริปที่แสนทรหดกับสามจังหวัดใต้
DAY 3
เช้าวันที่ 3 เปิดตัวด้วยการออกไปหาอาหารเช้ารับประทาน วันนี้ร้านที่น้องแนะนำเป็นร้านโรตี ซอยกอไผ่ มีอาหารให้เลือกมากมาย เวลาสั่งโรตี เขาจะสั่ง 2 1 คือ โรตีสองแผ่น ไข่ดาว 1 ฟอง สำหรับคนที่ลดความอ้วนเวลาสั่งข้าวกิน สามารถสั่งจานเล็กได้ กำลังอิ่มพอดีครับ
วนเวียนหอนาฬิกา ก็น่ามาเดินเล่นถ่ายรูป
คนภูเก็ตส่วนใหญ่จะเชื้อสายจีน ดังนั้นสถาปัตยกรรม จะออกแบบมาแบบบจีนๆ ร้านยาจีนโบราณนี้ก็เช่นกัน
ระหว่างทางไปชมวิวด้านบน เราจะวิ่งผ่านคลองมุดง ซื้อเป็นปากอ่าวก่อนออกสู่ทะเลอันดามัน
ระหว่างทางจะมีจุดชมวิวเป็นระยะๆ
ถึงแล้วหอชมวิวเขาขาด เราจะได้เห็นวิวภูเก็ตสวยๆก็ที่นี่แหละครับ
วิวสวยมาก
ด้านขวามือที่เป็นคลองก่อนออกปากอ่าวที่เราผ่านมา
วัดฉลอง แวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ข้างบนยอดประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ให้เราได้กราบไหว้อย่างใกล้ชิด
จะเห็นมุมสูงของโบสถ์ สวยงดงาม มีภูเขาล้อมรอบ
กุฏิหลวงพ่อแช่ม ข้างในประดิษฐานหุ่นขี้ผึ้ง จำลองหลวงพ่อแช่ม
หลังจากสักการะไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เราได้เดินทางมาหาดป่าตอง แวะหลบฝนที่จังซีรอนเป็นห้างเรียบหาดป่าตองครับ
หลังจากฝนหยุดตกเราก็ออกเดินเล่นทะเล ที่นี่คึกคักมากเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว ที่มาพักผ่อน
หนุ่มสาวคู่รักหยอกล้อเล่นน้ำกันอย่างสบายใจ
บางคนมาเพื่อพักผ่อนอย่างจริงๆ นั่งๆนอนๆอ่านหนังสือ นั่งสนทนาใต้ต้นมะพร้าว
หลังจากนั้นเราได้เดินทางไปยังแหลมพรหมเทพ เวาลาก็เข้าไป บ่ายสี่โมงกว่าๆ
แหลมพรหมเทพวันนี้ท้องฟ้าไม่แจ่มใส มองไม่เห็นดวงอาทิตย์แต่เราก็ได้เดินลงไปถ่ายรูปเล่นกัน
ทางเดินลงเข้าไม่ชันมาก พอเดินกันไปได้ค่อนข้างสะดวกครับ ลมแรงมาก แต่ไม่มีอะไรป้องกันคุณจากอุบัติเหตุได้นะ เพราะธรรมชาติล้วนๆ
ระหว่างทางเขาจะเห็นการตั้งหินเป็นชั้นๆ เชื่อกันว่าตั้งได้จะโชคดีและเป็นการทำสัญลักษณ์การมาถึงของคุณ
สุดปลายแหลมแต่อย่าลงไปข้างล่างนะครับไม่ปลอดภัยต่อตัวเองอย่างมาก คลื่นแรงมากเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย
ได้ภาพนี้กลับมาก็คงเห็นว่าเฆมฝนมาแล้ว
โอวต้าวอาหารพื้นเมือง ภูเก็ตที่มีแป้ง เผือก มันหมู หอยนางรมตัวเล็ก มาผัดเข้ากันอร่อยดีที่เดียว ร้านตั้งอยู่ที่ข้างมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตกด GPS ก็เจอเลย
หลังจากอิ่มท้องเราก็ขึ้นเขาลังมายังลานชมเมืองภูเก็ต ยามค่ำคืน
บรรยากาศภูเก็ตนี้สวยงามจริงๆครับ
พอเราลงมา น้องนำทางบอกว่าคนโสดต้องมา สะพานอ่าวฉลอง บรรยากาศดีลมเย็นๆ สะานยาวเป็นกิโล
หลังจากนั้นเราได้กลับที่พัก จบทริปวันที่สาม
DAY 4 LAST in Phuket
บ้านน้องกานต์ที่เรามาอาศัยพัก ตั้งสามคืน ประหยัดเงินแท้
รถประจำทริป เดินทางทั่วเกาะ
หลังจากเราออกมาจากบ้านพักแล้ว เราได้เดินทางมากินอาหารเช้า แนะนำเลยครับร้านดรีมครีม อาหารรสชาติโอเคสมราคา มากินมีให้เลือกหลากหลาย
หลังจากอิ่มท้องแล้วเราเดินทางมาสถานแสดงพันธ์สัตว์น้ำ Phuket Aquarium ค่าเข้าคนไทย ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท
ที่นี่เขามี ฉากสามมิติให้เราได้ถ่ายรูปกันด้วยนะ
ส่วนปลาน้ำลึก ก็มีมาโชว์